แม่ยายขอเดินทางฟ้องลูกเขยตัวแสบที่กล่าวหาว่าขโมยลอตเตอรี่ 12 ล้าน ทั้งที่ไม่มีอยู่จริง พร้อมตามคืบหน้าคดีฟ้องกลับฐานแจ้งเท็จ ยังเสียใจไม่หายลูกสาวทำกับแม่ได้
(21 มิ.ย.) จากกรณี ด.ช.แดน (นามสมมติ) อายุ 14 ปี พร้อมกับแม่ ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ เมื่อเดือนเมษายน 2561 โดยกล่าวหาว่า นางมานิตย์ อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นแม่ยายของเด็กชายคนดังกล่าว เพราะอยู่กินกับลูกสาวคนเล็ก อายุ 14 ปี พร้อมด้วย น.ส.สมศรี อายุ 21 ปี ลูกสาวคนโตของนางมานิตย์ และ นางฉวีวรรณ อายุ 30 ปี หลานสาวของนางมานิตย์ ร่วมกันยักยอกสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 หมายเลข 412073 งวดประจำวันที่ 1 เมษายน 2561 จำนวน 2 ใบ เป็นเงินรางวัล 12 ล้านบาท
ทั้งนี้ ด.ช.แดน ที่อ้างตัวเป็นลูกเขย ระบุว่า ตนเองถูกลอตเตอรี่ถูกรางวัลที่ 1 และนำลอตเตอรี่ทั้ง 2 ใบ ไปฝากไว้กับนางมานิตย์ ผู้เป็นแม่ยาย ทั้งกล่าวหาว่าแม่ยายเป็นคนนำสลากไปขึ้นเงินรางวัลโดยภารการ พร้อมทั้งได้มีการว่าจ้างทนายความยื่นฟ้องศาลจังหวัดนางรอง ให้เอาผิดกับบุคคลทั้ง 3 คนด้วย
แต่ต่อมาเมื่อเดือนสิงหาคม 2561 ศาลชั้นต้นมีความเห็นยกฟ้องในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง โดยศาลได้วินิจฉัยว่าเป็นเพียงแค่พยานบุคคล และพยานบอกเล่า ไม่มีวัตถุพยาน หรือพยานเอกสารมายืนยัน ว่าจำเลยกระทำผิดจริง ประกอบกับพยานเอกสารจากกองสลากก็ไม่ปรากฏชื่อโจทก์ ที่สลักไว้หลังสลาก และไม่ปรากฏชื่อของจำเลย หรือญาติของจำเลยไปขึ้นเงิน ศาลจึงมีคำพิพากษายกคำร้องโจทย์ในชั้นไต่สวน ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลจากกองสลากฯ พบว่าผู้ที่ถูกรางวัลที่ 1 ชุดดังกล่าวที่ไปขึ้นเงินกับกองสลากฯ ใน จ.ลำปาง และไม่เกี่ยวข้องอะไรกับแม่ยายที่ถูกกล่าวเลย
ล่าสุดในวันนี้ (21 มิ.ย.) ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วย นางมานิตย์ แม่ยายที่ตกเป็นจำเลยถูกลูกเขยฟ้อง ในคดียักยอกลอตเตอรี่ 12 ล้านบาท ได้เดินทางไปยังศาลจังหวัดนางรอง เพื่อยื่นแก้อุทธรณ์ เนื่องจากฝ่ายโจทก์ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ภาค 3 หลังจากที่ศาลชั้นต้นยกคำร้องโจทย์ในชั้นไต่สวน
พร้อมกันนี้ ทนายรณรงค์ และ นางมานิตย์ ยังได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้าคดีที่ได้แจ้งความกลับลูกเขยและแม่ ฐานแจ้งความเท็จ เบิกความเท็จที่ สภ.นางรอง หลังจากที่แจ้งความไว้ตั้งแต่เดือนกันยายน 2561 ซึ่งทางพนักงานสอบสวนให้ข้อมูลว่าได้สรุปสำนวนส่งอัยการแล้ว และทางอัยการมีความเห็นให้สอบสวนเพิ่มเติมอีก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ
ในขณะที่ของ สภ.หนองหงส์ ได้มีการยื่นฟ้องต่อศาลไปแล้ว และได้มีการเรียกค่าเสียหายกับลูกเขยและแม่ด้วย เป็นจำนวนเงิน 200,000 บาท ฐานกล่าวหาใส่ร้ายบุคคลทำให้เดือดร้อนเสียหาย
ทนายรณรงค์ เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้พาจำเลยมายื่นแก้อุทธรณ์ที่ศาลจังหวัดนางรอง เนื่องจากโจทย์ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ภาค 3 แต่ก็ไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร เพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์ของจำเลยว่าไม่ได้ยักยอกลอตเตอรี่ตามที่ถูกกล่าวหา และลอตเตอรี่ที่ถูกกล่าวอ้างถึงก็ไม่ได้มีจริง หลังพิสูจน์พบว่าคนที่ถูกรางวัลจริงๆ อยู่ที่ จ.ลำปาง ก็ได้นำหลักฐานไปขึ้นเงินแล้ว
ส่วนที่เรียกค่าเสียหายจากแม่ของเด็กชาย จำนวน 2 แสนบาทนั้น เพราะการที่แจ้งความกล่าวหาผู้อื่น นอกจากทำให้เสียหายแล้วยังได้รับเดือดร้อนต้องเสียค่าใช้จ่ายเดินทางไปมาโรงพักและศาล ทั้งยังเสียเวลาทำมาหากินอีกด้วย
นางมานิตย์ กล่าวว่า แม้ว่าฝั่งลูกเขยจะยื่นอุทธรณ์ แต่ก็ไม่รู้สึกกังวลเพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์ว่าไม่ได้ยักยอกลอตเตอรี่ไปตามที่ถูกกล่าวหา ยืนยันว่าไม่เคยเห็นลอตเตอรี่ตามที่ลูกเขยกล่าวอ้าง และหลังจากถูกลูกเขยฟ้องร้องผ่านไปกว่า 1 ปี ก็ได้รับความเดือดร้อนมาก เพราะต้องหาหยิบยืมเงินญาติพี่น้องเป็นค่าจ้างรถ เดินทางไปขึ้นโรงขึ้นศาลตลอด และก็ยังไม่รู้คดีจะจบลงเมื่อไหร่
แต่สิ่งที่ทำให้ตนเองรู้สึกเสียใจมากที่สุดคือ ทำไมลูกสาวกับลูกเขยถึงกล้าใส่ร้ายและทำเช่นนี้กับตนได้ลงคอ แต่ก็ยังดีที่มีทนายความมาช่วยเหลือ ส่วนเรื่องคดีที่แจ้งความกลับลูกเขยก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจไป
Cr.Sanook! Regional