กองสลากฯ ประกาศวางระบบ การคละเลขบนสลากฯ ใหม่ทั้งระบบปรับแผนเป็นแบบ 2-2-1 ป้องกันผู้ขายจัดสลากแบบชุดใหญ่ และทำให้เกิดการขายสลากเกินราคา โดยจะจัดชุดได้มากสุดเพียงแค่ 2 ใบ ทำให้เศรษฐีใหม่ อาจถูกรางวัลได้สูงสุดเพียงแค่ 12 ล้านบาท
ที่ห้องเอนกประสงค์ ชั้น 3 อาคารออกรางวัล สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สนามบินน้ำ มีการจัดแถลงข้อสรุปในการแก้ปัญหาสลากเกินราคา โดยมีนายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลพร้อมด้วย พลตำรวจเอกบุญส่ง จันทรีศรี ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล แถลงต่อผู้สื่อข่าวว่าตามที่คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลได้วางแนวทางในการแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคาไว้สามระยะได้แก่
- ระยะที่ 1 การจัดระเบียบและบังคับใช้กฎหมาย
- ระยะที่ 2 การประพันธ์และปริมาณสลักระหว่างระบบตัวแทนจำหน่ายในระบบการซื้อ-จองล่วงหน้า ทำให้สลากกระจายไปยังผู้จำหน่ายทั่วประเทศ
- ระยะที่ 3 การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนเป็นธรรมโดยรับฟังเสียงประชาชนทั้งผู้ซื้อและผู้ขายสลากเกี่ยวกับความต้องการในการซื้อสลากลบรวมไปสู่การแก้ไขปัญหา
สำหรับการรับฟังปัญหาในระยะที่สามนั้นส่วนใหญ่ผู้ซื้อต้องการซื้อสลากแบบรวมชุดผู้ขายจึงต้องไปหาสลากรวมชุดเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ซื้อทำให้ต้นทุนในการจำหน่ายเพิ่มสูงขึ้นและยังทำให้สลักใบเดี๋ยวหายไปจากตลาดรวมถึงยังมีปริมาณสลากรวมชุดที่มีความแตกต่างกันทั้งแบบ 5 ใบ 3 ใบและ 2 ใบ
นอกจากนี้ ปัญหาที่พบ จากการรวมชุดเพิ่มมากขึ้น ผู้ซื้อไม่สามารถซื้อสลากเป็นใบเดี่ยวได้ รวมถึงผู้ซื้อสลากแบบชุดยังต้องซื้อในราคาที่เกินกว่าใบละ 80 บาท โดยที่ผ่านมาไม่มีการห้าม ไม่มีการจัดชุด เป็นไปตามกลไกตลาด สลากชุดจึงเพิ่มขึ้น
พร้อมกันนี้คณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลร่วมกันพิจารณาแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยคำนึงถึงประโยชน์ต่อผู้ซื้อเป็นสำคัญ ในขณะเดียวกันก็ไม่ให้กระทบต่อผู้ขายมีมติให้ดำเนินการจัดทำฉลากแบบรวมชุดขึ้นโดยเป็นการรวมชุดแบบ 2-2-1 กล่าวคือการจัดชุด 2 ใบเป็นจำนวน 2 เล่มและจัดชุด 2 ใบอีก 2 เล่มและมี 1 เล่มที่เป็นใบเดียวสำหรับชุด 2 ใบแรก สำหรับชุดสองใบแรกมีเลขหกหลักเหมือนกันจำนวน 100 ชุดชุดละสองใบและมีเลขหน้าหมายเลข 6 หลักเหมือนกันซึ่งไม่ซ้ำกับชุดแรก อีกจำนวน 100 ชุดชุดละ 2 ใบและอีกหนึ่งเล่มจำนวน 100 บ่ายทำให้รายย่อยแต่ละราย ได้รับสลากจำนวน 5 เล่มเช่นเดิม แต่สามารถจำหน่ายสลากชุดได้ 200 ชุดชุดละ 2 ใบซึ่งสามารถแยกขายเป็นใบเดียวได้
นอกจากนี้จะมีการครัตัวเลขภายในเล่มเดียวกันและการจัดจำหน่ายเป็นการกระจายไปทั่วประเทศทำให้ไม่สามารถนำไปจับชุดเพื่อรวมเป็นชุดจำหน่ายในปริมาณมากๆได้อีกต่อไปและจะพิมพ์สีที่แตกต่างกันเพื่อเป็นจุดสังเกตให้ผู้ขายและผู้ซื้อได้เห็นชัดเจนว่าเป็นสลักที่พิมพ์ออกมาเป็นแบบรวมชุด
โดยสลากรวมชุดนี้จะจัดจำหน่ายในระบบซื้อ-จองล่วงหน้าฯ โดยเริ่มดำเนินการในการทำรายการจอง-ซื้อล่วงหน้าครั้งที่ 81 ซึ่งเปิดให้จองสลากงวดวันที่ 1 มีนาคม 2562 ทำรายการจองวันที่ 5-6 กุมภาพันธ์ และทำรายการซื้อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2562 และจะใช้เวลาสามเดือนในการประเมินผลการทดลองตลาด
กองสลากฯ เปิดเผยด้วยว่า สำหรับการจัดพิมพ์ฉลากแบบรวมชุดในลักษณะดังกล่าวเป็นไปตามการตอบสนองทั้งผู้ซื้อและผู้ขายที่มีความต้องการขายสลากแบบรวมชุดแต่ในขณะเดียวกันก็ต้องจำกัดปริมาณในการรวมชุดไม่ให้มีมากจนเกินไปด้วย โดยกองสลากเน้นย้ำว่าหากใน 3 เดือนนี้
นอกจากนี้นายธนวรรธน์ ระบุว่า หากการจัดทำฉลากแบบรวมชุดยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนอาจมีการปรับเปลี่ยนได้ในอนาคต พร้อมทั้งมีการกล่าวด้วยว่าหากมาตรการการจัดชุดคละเลขบนสลากฯ แบบ 2-2-1 นี้ไม่ได้ผลก็อาจจะวางระบบ ให้ผู้ขายไม่สามารถจัดชุดได้ โดยมีการคละเลขบนสลากทั้งระบบ
สำหรับการจัดทำฉลากแบบรวมชุดครั้งล่าสุดนี้ทำให้เกิดการตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการได้รับเงินรางวัลเมื่อสลากถูกรางวัล กรณีที่การรวมชุดสลากฯ สามารถรวมชุดได้มากสุดแค่เพียง 2 ใบ แต่หากรวมได้มากกว่านั้นถือได้ว่าเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ขายสลากและอาจทำให้มีต้นทุนสูงมากขึ้น ดังนั้นประชาชนจะสามารถถูกรางวัลในลังวันเดียวกันได้มากสุดเพียงแค่ 12,000,000 เท่านั้น