ต้องเสียภาษีเท่าไหร่? ถ้าเราโชคดีถูกหวยและได้เงินรางวัล

เมื่อเราโชคดีถูกหวย ถูกลอตเตอรี่ ได้รับรางวัลชิงโชค ต้องเสียภาษีไหม ? แล้วถ้าเสียจะโดนเก็บเท่าไหร่ มีวิธีคิดภาษีอย่างไร เรื่องสำคัญที่คนแต้มบุญสูงต้องรู้

การถูกหวย หรือได้รางวัลก้อนโตจากการเสี่ยงโชค คงเป็นสิ่งหลายคนฝันถึง แต่รู้ไหมว่า รางวัลที่เราได้รับจากการเสี่ยงดวงนั้น ใช่ว่าจะได้มาฟรี ๆ ซะเมื่อไหร่ เพราะต้องมีภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ตามมาด้วย อย่างที่เคยเห็นในข่าวอยู่บ่อย ๆ ที่คนถูกหวย ถูกรางวัลเป็นหลักล้าน หลักสิบล้าน กลับต้องมาโดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลังจำนวนมาก จนความโชคดี กลายเป็นความโชคร้ายไปซะอย่างนั้น

เพราะฉะนั้น ทางที่ดีลองมาทำความเข้าใจกันก่อนดีกว่า ว่าการได้รับเงินรางวัลต่าง ๆ จะโดนเก็บภาษีอะไร ยังไงบ้าง เผื่อวันไหนเกิดโชคดีบุญก้อนโตหล่นทับขึ้นมา จะได้ทำตัวกันถูกยังไงล่ะ

ถูกหวย-รางวัลชิงโชค ต้องเสียภาษีไหม ?

การถูกลอตเตอรี่ หรือได้รางวัลชิงโชคต่าง ๆ ทั้งการส่งรหัสใต้ฝาชิงโชค หรือตอบคำถามร่วมสนุกในรายการทีวี หนังสือพิมพ์ รางวัลที่ได้รับล้วนต้องถูกเก็บภาษีทั้งนั้น โดยรางวัลแต่ละประเภท จะถูกเก็บภาษีในรูปแบบและอัตราที่แตกต่างกัน ส่วนจะโดนเก็บภาษียังไงบ้างนั้น ตามมาดูกัน

ถูกหวย-รางวัลชิงโชค ต้องเสียภาษีประเภทไหน อย่างไรบ้าง ?

สามารถแบ่งประเภทของรางวัลออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่ สลากกินแบ่งรัฐบาล และรางวัลชิงโชคอื่น ๆ โดยมีรูปแบบการเก็บภาษี ดังนี้

  • 1. สลากกินแบ่งรัฐบาล หากถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล ผู้ถูกรางวัลจะโดนหักค่าอากรแสตมป์ หรือภาษี หัก ณ ที่จ่าย ทันทีที่ไปขึ้นเงินในอัตรา 0.5% ของเงินรางวัล หากเป็นสลากแบบธรรมดา แต่ถ้าเป็นสลากการกุศลชุดพิเศษ จะโดนหักภาษี ณ ที่จ่าย อัตรา 1% โดยทั้ง 2 แบบจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ทำให้ไม่ต้องนำเงินรางวัลไปยื่นภาษีประจำปีอีก
  • 2. เงินรางวัลชิงโชคอื่น ๆ แต่หากเป็นเงินรางวัลจากการชิงโชคอื่น ๆ เช่น ส่งรหัสใต้ฝา ทายบอลผลโลก ตอบคำถามร่วมสนุก เป็นต้น จะโดนเก็บทั้งภาษี หัก ณ ที่จ่าย ในอัตรา 5%

รวมทั้งต้องนำมูลค่าเงินรางวัล ไปรวมกับเงินได้ เพื่อยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมประจำปีอีกด้วย เพราะถือว่าเป็นเงินได้พึงประเมินประเภท 8 แห่งประมวลรัษฎากร หรือ มาตรา 40(8)

วิธีคำนวณภาษีเมื่อถูกรางวัล

  • 1. สลากกินแบ่งรัฐบาล สามารถคำนวณได้ง่าย ๆ คือ สมมติเราถูกรางวัลลอตเตอรี่ 60 ล้านบาท ก็จะโดนหักภาษี ณ ที่จ่าย 0.5% หรือคิดเป็น 300,000 บาท

ดังนั้น สรุปแล้วก็จะได้เงินรางวัลสุทธิอยู่ที่ 59.70 ล้านบาท โดยไม่ต้องนำเงินจำนวนนี้ไปคิดภาษีเงินได้ประจำปี

  • 2. เงินรางวัลชิงโชคอื่น ๆ อย่างที่บอกไปคือจะโดนหักภาษี 2 ต่อ โดยต่อแรกเป็นภาษี หัก ณ ที่จ่าย 5% เช่น ส่งรหัสใต้ฝาชิงโชค ได้รับรางวัลเป็นเงินสด 10 ล้านบาท ก็จะโดนหักภาษี ณ ที่จ่าย ในวันแรกที่ไปรับรางวัลเป็นจำนวน 500,000 บาท

หลังจากนั้น ถึงนำมูลค่าเงินรางวัลที่ได้รับ 10 ล้านบาท ไปรวมกับเงินได้อื่น ๆ ของเรา เพื่อนำไปยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมประจำปี ซึ่งจะโดนเก็บแบบอัตราเป็นขั้นบันได ตั้งแต่ 5% จนถึง 35% ขึ้นอยู่กับรายได้สุทธิของเราตามนี้

ทั้งนี้ หากเป็นกรณีที่มูลค่าเงินรางวัล รวมกับเงินได้สุทธิอื่น ๆ ไม่ถึง 150,000 บาท คือ ต่ำกว่าเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ถ้าเป็นแบบนี้ เราสามารถยื่นภาษีเพื่อขอคืนภาษีส่วนที่โดนหัก ณ ที่จ่าย 5% ได้

เช่น เป็นนักเรียนที่ไม่มีรายได้ส่วนอื่นเลย ถูกรางวัลชิงโชคได้รับเงินสด 50,000 บาท ทำให้โดนหักภาษี ณ ที่จ่าย 5% จำนวน 2,500 บาท แต่เมื่อถึงปลายปี พอคำนวณเงินได้สุทธิแล้ว เด็กนักเรียนคนนี้มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี ก็จะสามารถยื่นภาษี เพื่อทำเรื่องขอคืนเงินจำนวน 2,500 บาทที่เคยจ่ายไปได้ด้วย