ชี้สาเหตุ 13 ศพ นั่งกระบะท้าย ทำไม “ตายหมด”

ผจก.ศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน ชี้อุบัติเหตุ นศ.ตาย 13 ศพ รถวิ่ง 120 กม./ชม. แรงปะทะเท่าตกตึก 19 ชั้น และคนนั่งท้ายกระบะท้ายเสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากกว่าผู้โดยสารในตัวรถที่คาดเข็มขัดนิรภัยถึง 8 เท่า

จากกรณีเกิดอุบัติเหตุที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ ที่มาฝึกงาน นั่งในกระบะหลังรถปิกอัพ เสียชีวิต 13 ราย บาดเจ็บ 6 ราย รวมขณะเกิดเหตุมีคนในรถถึง 19 คน

ชี้สาเหตุ 13 ศพ นั่งกระบะท้าย ทำไม "ตายหมด"

เรื่องนี้ นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน เปิดเผยว่า สาเหตุของอุบัติเหตุประเภทนี้การควบคุมของผู้ขับขี่อาจจะเป็นประเด็นสําคัญประเด็นหน่ึง แต่สิ่งที่ทุกคนอาจไม่พึงระวัง คือ ขนาดหรือมิติตัวรถถือเป็นส่วนสําคัญของอุบัติเหตุครั้งนี้ คือ รถท่ีจุดศูนย์ถ่วงสูง (Center of Gravity) ซึ่งหากบรรทุกคน มา 10 คน เฉลี่ยน้ำหนักคนละ 60 กิโลกรัม จะมีความเสี่ยงในการพลิกควํ่ามากกว่ารถปกติ สูงกว่าปกติถึงกว่า 2.5 เท่า ซึ่งเป็นไปตามหลักฟิสิกส์พื้นฐาน

นอกจากนี้ เมื่อมีการบรรทุกคนนั่งท้ายกระบะ ซึ่งไม่มีอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (เข็มขัดนิรภัย) เมื่อเกิดการหักเลี้ยวกะทันหันก็จะเกิดแรงเหวี่ยงที่เพิ่มขึ้น จนส่งผลให้เกิดการพลิกคว่ำ คนที่อยู่บริเวณท้ายกระบะจึงมีลักษณะเหมือนการถูกเทกระจาดไปคนละทิศคนละทาง ซึ่งเมื่อเกิดการเทกระจาด ผู้โดยสารท้ายกระบะจะมีอัตราเสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากกว่าผู้โดยสารภายในตัวรถที่คาดเข็มขัดนิรภัยถึง 8 เท่า และรถคันดังกล่าวที่ได้เห็นจากในคลิป จากการคำนวณดูระยะความเร็วรถที่วิ่ง ใกล้ๆ กับ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งหากเกิดแรงปะทะจะเท่ากับตกจากตึกสูง 19 ชั้น จึงส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

“อาจจะมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย ซึ่งยังคงอยู่ในขั้นตอนการสอบสวนการเกิดเหตุ เช่น ความเสี่ยงจากยางระเบิดเนื่องจากบรรทุกจำนวนมาก หรือปริมาณแอลกอฮอล์ในตัวผู้ขับขี่”.